รีวิวสินค้าริซซ์

เมื่อฉันอยู่กับ iPhone X 1 วัน

สวัสดีค่ะ อีกไม่กี่วันจะมีการวางขายอย่างเป็นทางการในไทยวันที่ 24 พ.ย.นี้

เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้!!อริซได้รับสิทธิ์ถือ iPhoneX หรือ ไอโฟนสิบ

เป็นเวลา1วัน เริ่มสนุกแล้ว มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรสนุกๆให้เล่นกันบ้าง ไปชมกันเลย

+ ใหม่ๆสดๆ ของแท้แน่นอนต้อง #ริซซ์เติมความสนุกทุกโมเมนต์ +

ไม่มีปุ่มโฮม แถมปุ่ม Power ใหญ่ขึ้นมากกก

– อย่างแรกเลยที่เจอคือไม่มีปุ่มโฮมค่ะ “อ้าว!!แล้วจะกดตรงไหนอะ” คืองี้ค่ะ เราสามารถสไลด์ขึ้นแล้วใช้ได้เลยไม่ต้องกดอีกแล้วค่ะ

นอกเหนือว่าไม่มีปุ่มโฮมแล้วปุ่ม Power ยังใหญ่ขึ้นด้วย ความใหญ่นี้ไม่ใช่แค่ใหญ่เฉยๆนะคะ แต่ปุ่ม Power เอาไว้ใช้งานได้หลายๆอย่าง

เช่น 1. เรียกสิริ นอกจากใช้คำสั่งเสียงแล้วเรายังสามารถกดปุ่ม Power ค้างไว้ สิริจะพร้อมทำงานทันทีค่ะ

  1. แคปหน้าจอ หลายคนคงสงสัยว่าอ้าวแล้วจะแคปหน้าจอยังไง ไม่ยากค่ะ เพียงแค่กดปุ่ม Power พร้อมกับปุ่มเพิ่มเสียงค่ะ
  2. ปิดเครื่อง ถ้าปิดเครื่องต้องกด Power พร้อมกับปุ่มเพิ่มเสียงค้างไว้ ค่ะ

ไม่สแกนนิ้วแล้ว เดี๋ยวนี้เขา FACE ID กันแล้วจ้าาา

– พอไม่มีปุ่มให้สแกนนิ้ว แล้วเราจะยืนยันตัวตนในการเข้าเครื่องได้อย่างไรละ?? iPhone X จึงมาพร้อมกับการปลดล็อกโทรศัพท์ ด้วย Face ID อาจจะคิดว่าเจ้าอื่นๆเขาทำกันมาหมดแล้วทำไมเพิ่งทำ

Apple ให้เหตุผลที่ว่า “เราไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำ แต่เราเป็นเจ้าที่ดีที่สุดในการทำระบบป้องกันความปลอดภัย Face ID” อีกทั้ง Apple ได้เคลมว่า Touch ID มีข้อผิดพลาดหรือโอกาสที่ผู้อื่นจะปลดล็อกเครื่องได้ประมาณ 1 ใน 50,000  ขณะที่ Face ID มีโอกาสแค่ 1 ใน 1,000,000 เท่านั้น

แต่ที่แอบเป็นห่วงคือเวลา ยืนยันตัวตนเพื่อจ่ายเงิน หรือ ซื้อของบน iTunes สามารถใช้ Face ID ได้เหมือน Touch ID ทุกประการ นั้นแสดงว่าการจ่ายเงินของเราก็จะง่ายขึ้น ดังนั้นหากจะจ่ายเงิน หรือ ซื้อของบน iTunes จะต้องระวังจ่ายเงินไปโดยไม่รู้ตัวนะคะ^^

Animoji เทคโนโลยี AR ทั้งสนุก ทั้งน่ารัก

– ฟีเจอร์นี้เป็นสิ่งที่อริซชอบมากกกก เพราะว่ามันน่ารักมากๆเลยค่ะ นั้นคือ Animoji อิโมจิ 3D ที่มาพร้อมกับ iPhone X

โดย ใช้เทคโนโลยี  AR เข้ามาทำให้ Emoji ธรรมดามีชีวิตชีวามากขึ้น โดยที่การทำงานของมันคือบันทึกและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่แตกต่างกันกว่า 50 รูปแบบ  ผ่านกล้องที่ทำงานร่วมกับชิป A11 Bionic

แล้วจำลองการแสดงออกทางใบหน้าบน Animoji ที่เคลื่อนไหวได้ 12 แบบเลยทีเดียว

กล้องหลังดีดี เพราะมีกล้องคู่ (เลนส์yและเลนส์ เทเล)

– กล้องหลังเป็นเลนส์คู่ที่มาในแนวตั้ง มีความละเอียดอยู่ 12 ล้านพิกเซล มี ระบบ OIS กันภาพสั่นทั้ง2เลนส์  ทั้งหมดจะดูเหมือนไม่ค่อยต่างจากเดิมเท่าไหร่แต่ที่จริงมีความต่างเยอะอยู่พอสมควรค่ะ

ทั้งเซ็นเซอร์ใหม่ใหญ่กว่าเดิม รับแสงได้มากขึ้น 83% ทำให้ได้ภาพที่ดีขึ้น และนอยซ์ลดลง แต่ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกันนั้นคือ Portrait Lighting วิเคราะใบหน้า

และจำลองแสงต่างๆบนใบหน้า เพื่อให้ได้ภาพที่มีแสงสวยๆเหมือนถ่ายใน Studio ค่ะ รองรับการถ่าย VDO แบบ 4K ที่ 60fps

มาในส่วนของกล้องหน้า ที่มาพร้อมความละเอียด 7 ล้านพิกเซล F2.2 แต่ความพิเศษคือ กล้องหน้าสามารถถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอได้ และยังใช้ Portrait Lighting ได้อีกด้วยค่ะ

เทคโนโลยีชาร์จไร้สาย ถึงจะช้า แต่ก็มานะจ๊ะ

– มาช้ายังดีกว่าไม่มานะจ๊ะ โดย Apple เปิดตัวแท่นชาร์จไร้สายที่ชื่อว่า AirPower ซึ่งต่างจากแท่นชาร์จไร้สายตัวอื่นๆตรงที่ ชาร์จอุปกรณ์ได้หลายๆเครื่องพร้อมกัน

แถมยังรองรับการชาร์จเร็ว หรือว่า Fast charge ด้วยนะคะ แต่ต้องสั่งซื้ออุปกรณ์เสริมของ iPhone ที่เป็นการชาร์จแบบ USB C เพิ่มเติมนะคะ ราคาประมาณ 3000 บาทค่ะ

สำหรับใครที่อยากชาร์จเร็วก็สามารถ ซื้อมาชาร์จได้ แต่ถ้าใครไม่ได้อะไรมาก อยากมีสายชาร์จไว้หลายๆที่ ที่บ้าน ที่รถ ที่ทำงาน หรือพกติดตัวไปด้วย

สายชาร์จริซซ์ราคาย่อมเยาว์และไม่แพง สามารถซื้อได้หลายๆเส้นพกได้ทุกที่เลยนะคะ